ล่าสุด สดๆร้อนๆ กับการค้นพบ "ต้นเมเปิ้ล" ที่จังหวัดแพร่ เมื่อวันที่ 9 พฤศจิกายน 2560 ประกอบกับอากาศที่กำลังค่อยๆเย็นขึ้นนั้น วันนี้ OnedaytripThailand จึงได้นำข้อมูลของสถานที่ท่องเที่ยวชมต้นเมเปิ้ลในบ้านเรา ที่ไม่ต้องบินไปชมกันถึงเมืองนอกเมืองนามาแนะนำกัน ดังนั้นก่อนออกเดินทาง อย่าลืมวางแผนการเดินทางให้ดี และที่ลืมไม่ได้คือกล้องตัวเก่งของทุกท่าน
อุทยานแห่งชาติภูหินร่องกล้า
ขอบคุณภาพจาก เฟซบุ๊ก อุทยานแห่งชาติ ภูหินร่องกล้า
อุทยานแห่งชาติภูหินร่องกล้า ตั้งอยู่บนรอยต่อของสามจังหวัด คือ อ.ด่านซ้าย จังหวัดเลย อ.นครไทย จังหวัดพิษณุโลก และ อ.หล่มสัก จังหวัดเพชรบูรณ์ เป็นพื้นที่ทางประวัติศาสตร์ ซึ่งเป็นสถานที่ที่อดีตผู้ก่อการ ร้ายคอมมิวนิสต์ เคยใช้เป็นที่อยู่อาศัย และเป็นยุทธภูมิที่สำคัญ อันเนื่องจากความขัดแย้งของลัทธิ และแนว ความคิดทางการเมือง ได้แก่ พิพิธภัณฑ์การสู้รบ ,โรงเรียนการเมืองการทหาร,โรงพยาบาลรัฐ, สุสาน ทปท., หมู่บ้านมวลชน และเป็นพื้นที่ที่มีธรรมชาติสวยงาม ได้แก่ ลานหินแตก, ลานหินปุ่ม, ผาชูธง,น้ำตกร่มเกล้า-ภราดร,น้ำตกศรีพัชรินทร์ ,น้ำตกผาลาด,น้ำตกตาดฟ้า
อย่างเช่นภาพด้านบนนั้นเป็นภาพ ของใบต้นเมเปิ้ลกำลังเปลี่ยนไปเป็น สีส้ม และสีแดง โดยเฉพาะในช่วงเดือนมกราคมและกุมภาพันธ์ เป็นช่วงที่เหมาะสำหรับนักท่องเที่ยวที่จะไปชมใบต้นเมเปิ้ลสีแดงเป็นอย่างมาก เพราะในช่วงดังกล่าวใบต้นเมเปิ้ลจะเปลี่ยนเป็นสีแดงเข้มจัด
สำหรับการเดินทางมายัง อุทยานแห่งชาติภูหินร่องกล้า
1. ใช้ทางหลวงหมายเลข 12 สายพิษณุโลก-หล่มสัก ถึงสามแยกบ้านแยง มีป้ายบอกทางแยกขวาผ่านบ้านห้วยตีนตั่ง-บ้านห้วยน้ำไซ-ฐานพัชรินทร์ สู่ที่ทำการอุทยานแห่งชาติ ภูหินร่องกล้า ระยะทางประมาณ 31 กิโลเมตร หรือ
2. จากเพชรบูรณ์ตามทางหลวงหมายเลข 21 ผ่านอำเภอหล่มสัก อำเภอหล่มเก่า บ้านวังบาล บ้านเหมืองแบ่ง บ้านทับเบิกถึงอุทยานแห่งชาติภูหินร่องกล้า รวมระยะทางประมาณ 104 กิโลเมตร
สถานที่่ติดต่อ อุทยานแห่งชาติภูหินร่องกล้า ตู้ ป.ณ. 3 อ.นครชัย จ.พิษณุโลก 65120 โทร. 0-5523-3527
สอบถามข้อมูลเพิ่มเติม ได้ที่ส่วนอุทยานแห่งชาติ สำนักอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติ กรมป่าไม้ 61 ถนนพหลโยธิน เขตจตุจักร กรุงเทพฯ 10900 โทร. 0-2579-7223, 0-2579-5734 หรือ 0-2561-4292-4 ต่อ 723,725
อุทยานแห่งชาติภูกระดึง เป็นอุทยานแห่งชาติลำดับที่ 2 ของประเทศไทย ตั้งอยู่ในท้องที่ตำบลศรีฐาน อำเภอภูกระดึง จังหวัดเลย หรือที่หลายๆคนรู้จักกันในเรื่องของการพาคนที่เรารักไปร่วมพิสูจน์รักแท้ โดยการเดินทางไปพิชิตยอดของภูกระดึง เพราะการจะไปพิชิตยอดของภูกระดึงนั้นต้องใช้การเดินทางด้วยเท้าถึง 9 กม.กันเลยที่เดียว โดยจะเป็นเส้นทางขึ้นเขาประมาณ 5-6 กม. และทางราบอีกประมาณ 3-4 กม. แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นการเดินทางไปเที่ยวภูกระดึงก็ยังคงได้รับความนิยมเสมอ โดยเฉพาะในช่วงฤดูหนาวอุณหภูมิอาจลดต่ำจนถึง 0 องศาเซลเซียส หลายๆคนจึงอยากจะไปพิชิตยอดภูกระดึงสักครั้งในชีวิต จึงทำให้มีนักท่องเที่ยวเดินทางกันไปอย่างไม่ขาดสวย อีกทั้งความสวยงามทางธรรมชาติต่างๆ เช่น น้ำตกถ้ำใหญ่, น้ำตกโผนพบ, น้ำตกเพ็ญพบใหม่ , ผาหมากดูก และ ผานกแอ่น โดยเฉพาะใบเมเปิ้ลสีแดงที่ตกอยู่ตามโขดหินและลอยไปตามน้ำ ช่างสวยงามและเพลิดเพลินในการมองเป็นอย่างมาก
สำหรับการเดินทางมายัง อุทยานแห่งชาติภูกระดึง
1. เดินทางผ่านจังหวัดสระบุรี เพชรบูรณ์ อำเภอหล่มสัก หล่มเก่า ด่านซ้าย ภูเรือ และอำเภอเมืองเลย เลี้ยวเข้าทางหลวงแผ่นดินหมายเลข 201 (เลย-ขอนแก่น) และเลี้ยวเข้าทางหลวงจังหวัดหมายเลข 2019 เข้าสู่อุทยานแห่งชาติภูกระดึง หรือ
2. ใช้เส้นทางผ่านจังหวัดสระบุรี นครราชสีมา จนถึงจังหวัดขอนแก่น เลี้ยวซ้ายเข้าทางหลวงแผ่นดินหมายเลข 201 ผ่านอำเภอภูผาม่านและตำบลผานกเค้า เข้าสู่อุทยานแห่งชาติภูกระดึง
สถานที่่ติดต่อ ศูนย์บริการนักท่องเที่ยว ทั้งบนยอดภูกระดึง และบริเวณที่ทำการอุทยานแห่งชาติ ซึ่งอยู่ด้านล่าง ให้บริการข้อมูลเกี่ยวกับอุทยานแห่งชาติ นักท่องเที่ยวสามารถเข้ามาขอรับบริการข้อมูล ได้ทุกวัน ไม่เว้นวันหยุดราชการ ระหว่างเวลา 08.00-16.30 น.
สอบถามข้อมูลเพิ่มเติม อุทยานแห่งชาติภูกระดึง โทร. 042-871-333
เส้นทางลอยฟ้าหลังคาเมืองแพร่
ขอบคุณภาพจาก นสพ.แนวหน้าออนไลน์
เมื่อไม่กี่วันมานี้ ได้มีกลุ่มนักท่องเที่ยวได้พบต้นไม้ประมาณ 20 ต้น ที่มีใบไม้สีแดงลักษณะเหมือนใบเมเปิ้ล ที่ขึ้นอยู่บนภูกระดึง จึงแจ้งมายังจังหวัดแพร่เพื่อให้เข้าตรวจสอบ ซึ่งผู้ว่าราชการจังหวัดแพร่หลังจากทราบข่าว จึงได้จัดทีมเร่งลงพื้นที่เพื่อพิสูจน์ ก็ปรากฏว่าเป็นใบเมเปิ้ลจริงและ
คาดว่าจะเยอะที่สุดในประเทศไทย OnedaytripThailand จึงได้รีบนำข้อมูลดังกล่าวมาแจ้งให้ทราบ
เพื่อหนาวนี้จะได้มีที่เที่ยวชมใบเมเปิ้ลแห่งใหม่กัน